ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวจีน โดยมีอัตราการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เนื่องมาจากภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand ที่กำกับโดยนักแสดงตลกชาวจีน ซึ่งได้มาถ่ายทำที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเปิดตัวภาพยนตร์ในประเทศจีนแล้วนั้น ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ส่งผลให้เชียงใหม่เป็นที่รู้จักของคนจีนและทำให้เชียงใหม่กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก
จากรายงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2553 มีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเชียงใหม่เพียง 40,000 คนเท่านั้น แต่ในปี พ.ศ. 2556 กลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 144,213 คน อีกทั้งเมื่อพิจารณาภาพรวมในช่วงปี พ.ศ. 2555 – 2557 พบว่ามีนักทองเที่ยวจีนเดินทางมาเชียงใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีละไม่ต่ำกว่า 150,000 คน
การเข้ามาของนักลงทุนจีน
จากกระแสนักท่องเที่ยวจีนที่มาท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ส่งผลให้เกิดความตื่นตัวในกลุ่มผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว นอกจากนั้นแล้วยังพบว่าผู้ประกอบการจีนจำนวนมากเล็งเห็นช่องทางการทำธุรกิจและการค้าที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวดังกล่าวด้วย โดยผู้ประกอบการจีนได้เริ่มทยอยเข้ามาทดลองเปิดกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเชียงใหม่ชี้ว่า ในปี พ.ศ. 2557 มีผู้ประกอบการจีนเข้ามาทำธุรกิจโดยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวนถึง 331 ราย รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่พัก และบริการอาหาร ซึ่งในจำนวนนี้ยังไม่ได้รวมผู้ประกอบการจีนรายย่อยที่ไม่ได้จดทะเบียนในการทำธุรกิจตามกฎหมายอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีลักษณะการทำธุรกิจในรูปแบบการเปิดร้านโดยการเช่าต่อจากผู้ประกอบการไทยในประเภทธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่พักโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ บ้านพัก ร้านอาหาร ร้านสปา นวดแผนโบราณ บริษัททัวร์ และกิจการของที่ระลึก หรือการทำอาชีพมัคคุเทศก์ เป็นต้น
การเข้ามาของนักลงทุนจีนในภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยวส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง
การประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวของผู้ประกอบการจีนในเชียงใหม่ ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจอยู่ก่อนหน้าอย่างมาก อีกทั้งยังประสบปัญหาในการทำธุรกิจกับผู้ประกอบการจีนอย่างต่อเนื่อง เช่น ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ (ภาวะที่บริษัททัวร์ไทยไม่ได้รับกำไรจากบริษัททัวร์จีน) ปัญหาทัวร์ติดลบ (ภาวะที่บริษัททัวร์ไทยต้องจ่ายค่าหัวคิวนักท่องเที่ยวให้กับบริษัททัวร์จีน) เพื่อให้บริษัททัวร์จีนหาลูกทัวร์มาส่งให้ในปริมาณมาก และเริ่มมีบริษัทกลุ่มทัวร์จีนเข้ามาทำธุรกิจท่องเที่ยวแบบครบวงจร ทั้งเปิดร้านอาหาร ร้านขายสินค้าของที่ระลึก นำนักท่องเที่ยวจีนไปเฉพาะร้านที่มีเจ้าของเป็นคนจีน นอกจากนี้ยังพบในกรณีร้านขายของที่ระลึกที่เริ่มมีนักธุรกิจจีนเข้ามาร่วมทุนหรือซื้อกิจการร้านจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมในเขตหางดงไปไม่น้อยกว่า 7-8 ราย เพื่อเน้นขายให้กับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ทั้งนี้ยังรวมไปถึงกลุ่มบริษัทขนส่งสินค้าของนักธุรกิจจีนที่เข้ามาเปิดให้บริการเพื่อขนส่งสินค้ากลับไปยังประเทศจีน โดยที่ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถแข่งขันทางการค้าได้ เป็นต้น
ถึงแม้ว่าไทยจะได้รับผลกระทบด้านบวกเกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมดีขึ้น แต่ผลกระทบทางลบกลับเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการไทยรายย่อยทั้งระดับกลางและ ระดับเล็ก การเข้ามาของผู้ประกอบการชาวจีนส่งผลให้เกิดสภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น และมีผลทำให้ผู้ประกอบการไทยรายย่อยในเชียงใหม่ส่วนหนึ่งต้องขายกิจการหรือปิดตัวลง ผู้ประกอบการบางรายก็ปรับตัวโดยการผันตัวเองไปเป็นผู้ให้เช่าธุรกิจแก่นายทุนอื่น รวมถึงผู้ประกอบการชาวจีนด้วย หรือหาหุ้นส่วนชาวจีนเพื่อช่วยกันบริหารจัดการด้านการตลาดกับนักท่องเที่ยวจีนผ่านการจดทะเบียนบริษัทตามกฎหมายไทย รวมถึงสร้างเครือข่ายใหม่ ๆ ทางการค้า และใช้เทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงตลาดนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้นด้วย
ผลกระทบของกลุ่มผู้ประกอบการไทย
จากการศึกษาผลกระทบของกลุ่มผู้ประกอบการไทย 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และที่พัก 2) กลุ่มธุรกิจสปาและนวด 3) กลุ่มธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยว 4) กลุ่มธุรกิจประกอบการบนเส้นทางท่องเที่ยว 5) กลุ่มแรงงานมืออาชีพในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว พบผลกระทบดังนี้
1) ปกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และที่พัก โดยภาพรวมธุรกิจรายใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบมากกว่า เนื่องจากผู้ประกอบการชาวจีนนิยมเลือกลงทุนกับธุรกิจที่พักขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มากับบริษัททัวร์และกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ ปัญหาที่พบคือการเกิดระบบที่พักซ่อนรูป ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ มีผู้ประกอบการจีนรายย่อยจำนวนมากที่ทำที่พักซ่อนรูปผ่านการเช่าที่พักต่อจากคนไทย รวมทั้งมีการให้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) ในการจดทะเบียนตั้งบริษัท
2) กลุ่มธุรกิจสปาและนวด โดยภาพรวมไม่ได้รับผลกระทบหรือปัญหาจากการเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการชาวจีน เนื่องจากมี พ.ร.บ. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ระบุไว้ชัดเจนว่าผู้ประกอบการต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้อง และต้องมีใบอนุญาตประกอบการจดทะเบียนธุรกิจ อีกทั้งยังมีการพัฒนาเอกลักษณ์ท้องถิ่นในการสร้างสินค้าและบริการ มีความหลากหลายในรูปแบบของบริการ
3) กลุ่มบริษัททำธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยว พบปัญหาด้านการทำการตลาดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งยังขาดจุดเด่นหรือจุดขายของตัวเองทั้งในเชิงธรรมชาติและเชิงวัฒนธรรม การมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต หรือในต่างประเทศ ประกอบกับผู้ประกอบการไทยยังไม่เข้าใจพฤติกรรมแบบใหม่ของนักท่องเที่ยวจีน ที่มักใช้ระบบออนไลน์มากขึ้น เป็นนักท่องเที่ยวแบบ SoLoMo (Social + Location + Mobile) และ FIT (Free Independent Travelers)
หากผู้ประกอบการไทยยังจัดรูปแบบการท่องเที่ยวแบบเดิม ไม่ทันสมัย และไม่ปรับตัว จะทำให้เสียเปรียบผู้ประกอบการจีนซึ่งมีความเข้าใจในความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนด้วยกัน อีกทั้งยังพบปัญหาด้านความอ่อนแอของเครือข่ายเอกชนในการแข่งขันตามกลไกตลาด ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก มองเห็นกำไรและความอยู่รอดในระยะสั้น ไม่มีความร่วมมือกันกับผู้ประกอบการรายอื่นอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ไม่มีอำนาจในการต่อรอง โดยเฉพาะการตั้งราคามาตรฐาน ส่งผลให้ประสบปัญหาการแย่งลูกค้าและตัดราคากันเองตลอดมา
นอกจากนั้น ยังพบปัญหาการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญที่เป็นการปราบปรามในระยะสั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะยาวได้ และยังมีช่องว่างทางกฎหมายที่ทำให้ชาวจีนเข้ามาลงทุนแบบใช้ตัวแทนอำพราง (นอมินี) ประกอบกับการบังคับใช้กฎหมายในเชิงปฏิบัติโดยเจ้าหน้าที่รัฐนั้นยังไม่จริงจังเพียงพอ ทำให้รัฐเสียประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีตามระบบ และเกิดผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการไทยในท้องถิ่นในเรื่องของการแข่งขันทางธุรกิจท่องเที่ยวอย่างไม่เป็นธรรม
4) กลุ่มธุรกิจประกอบการบนเส้นทางท่องเที่ยว พบปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงเส้นทางท่องเที่ยว ส่งผลต่อผู้ผลิตสินค้าหัตถกรรมบนเส้นทางท่องเที่ยวเก่า เช่น บ้านถวาย อำเภอหางดง และบ้านบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง โดยมีเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ตามการกำหนดของทัวร์จีนบริเวณแม่โจ้และแม่ริม ซึ่งเป็นแหล่งที่ผู้ประกอบการจีนเลือกมาลงทุน ประกอบกับรูปแบบการท่องเที่ยวของชาวจีนเริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่การท่องเที่ยวแบบอิสระด้วยตนเองเพิ่มมากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้เดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่หลากหลายตามความสนใจเฉพาะของตนมากขึ้น
5) กลุ่มแรงงานมืออาชีพในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว พบปัญหาการขาดแคลนมัคคุเทศก์ แม้ว่ามัคคุเทศก์จะเป็นอาชีพที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับคนไทยตามกฎหมายก็ตาม แต่ปัจจุบันมีมัคคุเทศก์ที่ทำงานอย่างผิดกฎหมายมากขึ้น ทั้งมัคคุเทศก์ไทยที่ไม่มีใบอนุญาต และมัคคุเทศก์จากประเทศจีนที่มากับบริษัททัวร์จีน รวมทั้งพบปัญหาหน่วยงานรัฐเลือกปฏิบัติในการทำหน้าที่
สมาคมมัคคุเทศก์มืออาชีพแห่งประเทศไทยได้มีคำร้องเรียนว่าหน่วยงานภาครัฐไม่ตรวจสอบและจับกุมมัคคุเทศก์เถื่อนอย่างเข้มงวดทั้งระบบ กล่าวคือ เจ้าหน้าที่เลือกตรวจสอบเฉพาะมัคคุเทศก์ไทยที่มีบัตรประจำตัวสีชมพู และมักจะจับกุมในความผิดฐานปฏิบัติงานข้ามจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งอาชีพมัคคุเทศก์ยังมีปัญหาเรื่องระบบสวัสดิการสังคมและประกันสังคม เนื่องจากเป็นอาชีพอิสระ ความมั่นคงทางด้านสวัสดิการจึงไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร
กล่าวโดยสรุป การเข้ามาของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวจีนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งด้านบวกและลบ เราจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัวในเท่าทันต่อสถานการณ์ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวให้ตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการปรับปรุงพัฒนากฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ให้ทันสมัยและสามารถบังคับใช้ได้จริง ลดช่องว่างทางกฎหมาย ประสานให้เกิดความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายต่าง ๆ ของผู้ประกอบการไทย และส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างจริงจัง ทั้งด้านความรู้และทักษะพื้นฐานสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทั่วไป ได้แก่ การใช้ภาษา การตลาด การออกแบบ และการใช้เทคโนโลยี รวมถึงความรู้และทักษะเฉพาะทางวิชาชีพสำหรับผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น มัคคุเทศก์ ผู้นวด และช่างฝีมือต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจท่องเที่ยวในปัจจุบัน
อ้างอิงข้อมูลจากโครงการวิจัย “การลงทุนของจีนกับผลกระทบต่อความมั่นคงทางธุรกิจท่องเที่ยวในภาคเหนือของไทย” หัวหน้าโครงการ : เทพฤทธิ์ มณีกุล |